อาหารเสริมมีความสำคัญกับคนเรามากน้อยเพียงไร
.jpg)
ตารางงานที่แน่นจนต้องพึ่งอาหารจานด่วน การเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ทำให้ดินเสื่อมคุณค่า และสารปนเปื้อนในกระบวนการผลิตอาหาร ล้วนทำให้สารอาหารสำคัญลดลงอย่างมีนัยสำคัญ งานวิจัยในไทยหลายฉบับพบว่า คนเมืองกว่า 60 % ได้รับใยอาหารและวิตามินบีรวมไม่ถึงค่าที่แนะนำในแต่ละวัน ซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหาลำไส้แปรปรวน ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ไปจนถึงภาวะเหนื่อยล้าเรื้อรัง อาหารเสริมจึงเข้ามาช่วย “อุดช่องว่าง” ของสารอาหารที่ขาดหายไปจากมื้อหลัก
คู่มือเลือกอาหารเสริมตามช่วงวัย
วัยเรียน–วัยทำงาน (15–40 ปี)
โฟกัสกลุ่มบีคอมเพล็กซ์ โอเมก้า-3 และลูทีน เพื่อส่งเสริมสมาธิ สายตา และการสร้างพลังงาน
วัยทอง (40–60 ปี)
เพิ่มแคลเซียม-แมกนีเซียม + วิตามิน D 3 เพื่อลดความเสี่ยงกระดูกพรุน และเสริมโคเอนไซม์ Q10 ปกป้องหัวใจ
ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป)
ให้ความสำคัญกับโปรตีนเสริมย่อยง่าย วิตามิน B12 และโปรไบโอติก เพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อ ระบบประสาท และการขับถ่าย
5 สารอาหารเสริมที่คนไทยมักขาด
- วิตามิน D : ได้รับแสงแดดไม่พอ + ทาครีมกันแดดตลอดปี
- โอเมก้า-3 (EPA/DHA) : คุณบริโภคปลาทะเลเพียง 1–2 มื้อ/สัปดาห์
- แมกนีเซียม : มีการดื่มกาแฟ-น้ำอัดลม ร่างกายขับมักจะแร่ธาตุนี้ออกทางปัสสาวะ
- สังกะสี : โปรตีนสัตว์ไม่เพียงพอ และดื่มแอลกอฮอล์
- ใยอาหาร+โปรไบโอติก : เมนูข้าวขัดขาว เนื้อแปรรูป ขนมหวานแทนผักผลไม้
อาหารเสริม & โรคประจำตัว: กินอย่างไรไม่ให้ตีกับยา
- ผู้ใช้ยาลดความดันควรหลีกเลี่ยงขิงสกัดปริมาณสูง เพราะอาจเสริมฤทธิ์ขยายหลอดเลือด
- ผู้ป่วยเบาหวานที่กินเมทฟอร์มินมักขาดวิตามิน B12 ควรตรวจเลือด–เสริมภายใต้คำแนะนำแพทย์
- สแตตินลดคอเลสเตอรอลทำให้ CoQ10 ในร่างกายลดลง จำเป็นต้องเสริมเพื่อป้องกันตะคริว กล้ามเนื้ออ่อนแรง
เช็กฉลากและความปลอดภัย: 4 จุดต้องดูทุกขวด
- เลข อย. และ GMP/HACCP ยืนยันมาตรฐานการผลิต
- ปริมาณสารสำคัญต่อหน่วยบริโภค เปรียบเทียบกับ RDI
- ส่วนผสมแฝง (น้ำตาล สารกันเสีย) โดยเฉพาะในผงชงดื่ม
- คำเตือน ปฏิกิริยาระหว่างยา เพื่อป้องกันการตีกันของสรรพคุณ
สรุป: “ทานอาหารเสริมอย่างมีสติ” คือกุญแจสู่สุขภาพยั่งยืน
อาหารเสริมไม่ใช่ยาครอบจักรวาล แต่เป็น “ตัวต่อจิ๊กซอว์” ที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างของสารอาหารในชีวิตจริง หากเลือกตามช่วงวัย ไลฟ์สไตล์ และโรคประจำตัว ควบคู่มื้ออาหารครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย และพักผ่อนเพียงพอ จึงจะได้รับประโยชน์สูงสุดและลดความเสี่ยงจากการสะสมเกินจำเป็นในระยะยาว
เคล็ดลับจำง่าย: ตรวจ “เลขอย.–ปริมาณ–ส่วนผสม–คำเตือน” ทุกครั้งก่อนซื้อ แล้วอาหารเสริมให้ตรงจุด แค่นี้ก็อุ่นใจได้ว่าเงินทุกบาทที่จ่ายไปได้ประโยชน์คุ้มค่า สุขภาพยืนยาวแน่นอน
ช่วงอายุและร่างกายแบบใดที่ควรรับประทานอาหารเสริม
อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ตามหลักของพุทธศาสนา อันประกอบด้วย อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยพื้นฐานของการดำรงชีวิตอย่างมีสุขภาพดี แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย อาหารหลักที่ร่างกายต้องการประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน น้ำ นอกจากอาหารหลักเหล่านี้แล้ว ร่างกายจำเป็นต้องได้รับวิตามินและแร่ธาตุ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระประเภทต่างๆ เพื่อทำให้เกิดปฏิกิริยาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกาย เช่น การเผาผลาญเพื่อให้เกิดพลังงาน การเสริมสร้าง-ซ่อมแซมเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ การสร้างภูมิต้านทาน และสารต้านการอักเสบ เป็นต้น
กล่าวโดยทั่วไปแล้วเราทุกคนควรได้รับอาหารเสริม เพราะวิตามินบางชนิดร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้เอง ต้องได้จากการรับประทานเท่านั้น เช่น แอสตาแซนทีน (Astaxanthin) ซึ่งเป็นสารแคโรตีนอยด์ที่พบในธรรมชาติและร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ จึงต้องได้จากการรับประทานซึ่งมีอยู่ในปริมาณที่น้อยมาก เช่น เนื้อปลาแซลมอน ขนาด 200 กรัม มีแอสตาแซนทีนอยู่เพียง 1 มิลลิกรัม เท่านั้น สารนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินอี เบตาแคโรทีน และสารสกัดจากเมล็ดองุ่น นอกจากนั้นยังช่วยเสริมความงามของผิวพรรณจากภายในสู่ภายนอก ลดอาการผิวแห้ง เพิ่มความชุ่มชื้น ลดความหยาบกร้าน ริ้วรอย เหี่ยวย่น
อีกทั้งเมื่อเรามีอายุมากขึ้น ประสิทธิภาพของการย่อยและดูดซึมที่ลดลง ส่งผลทำให้ได้รับสารอาหาร แร่ธาตุ วิตามินต่างๆ ลดลงอย่างมาก สารบางอย่างที่ร่างกายสามารถผลิตได้ เช่น เอ็นไซม์กลูตาไธโอน หลังอายุ 20 ปี ร่างกายสามารถสร้างได้ในปริมาณที่น้อยลง จำเป็นต้องรับเพิ่มจากอาหารเสริม เพื่อเสริมประสิทธิภาพของตับในการกำจัดสารพิษที่อยู่ในร่างกาย การรับประทานยากลุ่มลดคอเลสเตอรอล อาจทำให้ระดับโคเอ็นไซม์คิวเทนลดลง จำเป็นต้องรับประทานอาหารเสริมที่มีโคเอ็นไซม์คิวเท็นเพิ่มด้วย เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนโดยเฉพาะด้านการทำงานของหัวใจ
.png)
